ความฉลาด คือ ความสามารถในการคิด วิเคราะห์ อย่างมีเหตุผลและการมีสติปัญญาที่หลักแหลมในการตัดสินใจหรือแก้ไขปัญหาต่าง ซึ่งนี่เป็นความฉลาดในแบบปกติทั่วไปที่เรานั้นตีความกันเอาเองค่ะ จึงทำให้เกิดการด่าทอว่าคนนั้นโง่คนนี้โง่โดยที่แท้จริงเรานั้นยังไม่รู้เลยว่าความหมายของคำว่า ความฉลาด’ ที่แท้จริงมันคืออะไรกันแน่ ซึ่งเท่อเราได้พูดถึงเรื่องความฉลาดแล้วก็คงจะต้องนึกถึงผู้ที่ริเริ่มเรื่องการแบ่งความฉลาดออกเป็น 8 ด้านกันก่อนเลยนั่นก็คือ ‘Howard Gardner’ ซึ่งเขานั้นเป็นนักจิตวิทยาที่ต้องการรู้เรื่องของความหมายของความฉลาดเช่นเดียวกันกับพวกเราเพราะเขาได้เล็งเห็นว่าแต่ละคนนั้นมีความสามารถที่แตกต่างกันออกไปนั่นเอง
โดยเขาได้ทำการออกไปสำรวจและสอบถามผู้คนมากมาย ทั้งผู้ที่มีสติสัมปชัญญะหรือผู้ที่มีความบกพร่องทางด้านสมอง เพื่อการต้นหาความจริงเกี่ยวกับนิยามของคำว่าความฉลาดคืออะไร ซึ่งก็ทำให้เขานั้นค้นพบทฤษฎีที่เขาได้คิดค้นขึ้นมาที่มีชื่อว่า ‘Theory of Multiple Intelligences’ ที่จะแบ่งความฉลาดออกเป็น 8 ด้าน ได้แก่
- Music Smart ความฉลาดทางด้านดนตรี
- Body Smart ความฉลาดในการแก้ปัญหาโดยการใช้ร่างกาย
- People Smart ความฉลาดในด้านการเห็นอกเห็นใจผู้อื่น
- Word Smart ความฉลาดทางด้านภาษา
- Logic Smart ความฉลาดในด้านตรรกะ
- Nature Smart ความฉลาดทางด้านความเข้าใจในธรรมชาติ
- Self Smart ความฉลาดในด้านการทำความเข้าใจตัวเอง
- Picture Smart ความฉลาดด้านมิติสัมพันธ์
ซึ่งหลังจากที่โฮว์วอร์ดได้ทำการสร้างทฤษฎีขึ้นมาก็ต่างมีผู้คนให้ความสนใจกันเป็นอย่างมาก มีการตั้งประเด็นถกเถียงรวมถึงได้นำเอาไปพัฒนาอย่างละเอียดและมีเหตุผลมากขึ้นอีกด้วย ทำให้ในปัจจุบันเราสามารถรับรู้ได้ว่าแท้จริงแล้วความฉลาด คือ ความสามารถของตัวบุคคลที่จะสรรค์สร้างหรือกระทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งขึ้นมาด้วยทักษะของตน ที่สั่งสมมาจากประสบการณ์และความชอบส่วนตัวและสามารถทำสิ่ง ๆ นั้นได้อย่างเต็มที่นั่นเอง
ความฉลาด 9 ด้าน
ถึงแม้โฮว์วอร์ดจะเป็นผู้ที่คิดค้นทฤษฎีของเรื่องการฉลาดขึ้นมาทั้ง 7 ด้านแล้ว แต่หลังจากที่เขาเสียชีวิตไปก็ได้มีนักวิชาการและนักจิตวิทยารุ่นหลังได้ทำการสานต่อทฤษฎีนี้ด้วยการศึกษาและทำการวิจัยเพิ่มเติม จนทำให้เกิดความฉลาดทั้ง 9 ด้านขึ้นมา ซึ่งความฉลาดทั้ง 9 ด้านนี้เองที่จะเป็นตัวตัดสินความจริงแล้ว ‘เราไม่ได้โง่’ แต่เราก็เป็นคนหนึ่งที่มีความฉลาดเช่นเดียวกัน ซึ่งความฉลาดทั้ง 9 ด้าน ที่เราควรรู้ มีดังนี้
1. Emotional Quotient
EQ คือ ความฉลาดทางด้านอารมณ์ เป็นความสามารถของบุคคลในการจัดการกับอารมณ์ของตนเองอย่างมีประสิทธิภาพและถูกสถานการณ์ ซึ่งผู้ที่มีระดับ EQ สูงนั้น จะสามารถปรับตัวและทำความเข้าใจกับสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นได้เป็นอย่างดีว่าควรทำตัวอย่างำร ควรปฏิบัติตัวอย่างไร โดยจะต้องใช้ทักษาะหรือ Skill เพิ่มด้วย นอกจากนี้ยังต้องสามารถยับยั้งชั่งใจกับเรื่องราวที่ทำให้อ่อนไหวได้ รวมถึงมีจิตใจร่าเริงแจ่มใสปรับเข้ารับกับโลกได้เป็นอย่างดี
โดยผู้ที่มีความฉลาดทางด้านอารมณ์ (EQ) นี้ อาจไม่ได้เป็นผู้ที่มีความฉลาดทางด้านสติปัญญา (IQ) มากเท่าไหร่ หรือไม่ได้มีระดับของไอคิวที่สูงมาก แต่หากจะพูดกันถึงความสามารถในการเข้าร่วมกิจกรรมหรือความกล้าแสดงออกในทางที่ถูกต้องนั้นจะมีความเด่นชัดมากที่สุด เช่น การเข้าค่ายของนักเรียน ซึ่งเชื่อว่าเราทุกคนจะต้องผ่านจุด ๆ นั้นกันมาอยู่แล้ว และในกิจกรรมนี้นี่แหละค่ะที่จะทำให้เราสามารถเห็นความมี EQ เป็นเลิศของเราและเพื่อนร่วมค่ายของเราได้อย่างชัดเจน ซึ่งเป็นด้านของความฉลาดที่มองเห็นได้ชัดเจนมากที่สุด
2. Adversity Quotient
AQ คือ ความฉลาดด้านการแก้ปัญหา เป็นความสามารถของผู้ที่สามารถวิเคราะห์ปัญหาที่จะเกิดขึ้นได้อย่างมีเหตุผล อีกทั้งยังเข้าใจถึงปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างถ่องแท้และพร้อมรับกับสถานการณ์นั้น ๆ ด้วยการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้อย่างทันท่วงที ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นว่าเป็นไปในลักษณะใด โดยผู้ที่มีความฉลาดทางด้านการแก้ปัญหา (AQ) นั้น จะเป็นผู้ที่มองเห็นคำว่า ‘ปัญหา’ เป็นเรื่องสนุกและมีความตื่นรู้ที่จะสืบเสาะหาคำตอบ ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคหรือความยากลำบากที่จะเกิดขึ้น เพื่อการแก้ปัญหาอย่างที่มีความถูกต้อง
3. Intelligence Quotient
IQ คือ ความฉลาดทางด้านการใช้สติปัญญา เป็นความสามารถของผู้ที่มีความสามารถในการคิดคำนวณ วิเคราะห์ แยกแยะ ได้อย่างมีเหตุมีผล อีกทั้งยังเป็นผู้ที่มีความสามารถในการจดจำได้อย่างดีเยี่ยม มีทักษะในการพูด อ่าน เขียน ได้อย่างคล่องแคล่วและถูกต้อง โดยส่วนใหญ่แล้วผู้ที่มีความเป็นเลิศทางด้านสติปัญญา (IQ) นั้น จะเป็นผู้ที่มีความโดดเด่นในด้านงานวิชาการมาก ๆ ตามที่เราได้รู้กัน โดยผู้ที่มี IQ สูงนั้น พวกเขาจะสามารถจดจำในสิ่งที่ผ่านหูผ่านตาได้อย่างมีเหตุผล อีกทั้งยังสามารถแก้ไขคำตอบหรือมีการโต้ตอบที่มีเหตุผลรับกับโจทย์ที่ได้รับมาได้อย่างดีเยี่ยม
คิดไว พูดไว ตอบไว เรียกได้ว่าเป็นทักษะของคนกลุ่มนี้เลยค่ะ โดยคนที่มีความฉลาดทางด้านสติปัญญานั้นจะเป็นผู้ที่กระหายในเรื่องของการตอบคำถามที่จะต้องใช้ทักษะการคำนวณและการหาคำตอบอย่างมีเหตุผล ซึ่งต้องมีเหตุผลประกอบในการไขข้อสงสัยต่าง ๆ แต่ข้อเสียของคนกลุ่มนี้นั้นก็คือความกล้าแสดงออกหรือความฉลาดทางด้านอารมณ์ (EQ) นั้นจะมีน้อยมาก ๆ เพราะมักจะสนใจในด้านของวิชาการแต่เพียงอย่างเดียวนั่นเอง
4. Social Quotient
SQ คือ ความฉลาดทางด้านสังคม เป็นความสามารถของผู้ที่มีทักษะในด้านการสื่อสารและความเข้าใจในผู้อื่น โดยเฉพาะคนในสังคม ซึ่งคำว่า ‘สังคม’ ในที่นี้นั้น หมายถึง สังคมทุกประเภทไม่ได้จำกัดว่าจะต้องอยู่ในชุมชนเท่านั้น เพราะ โรงเรียน , ที่ทำงาน , หรือครอบครัวนั้น ก็ถือเป็นสังคมที่จำเป็นจะต้องใช้ทักษะทางด้านการเข้าสังคมเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นทักษะทางด้านการพูด การเขียน หรือการแก้ไขปัญหาที่จะต้องใช้ทักษะการสื่อสารอย่างมีเหตุผลและสามารถปรับตัวเข้าหาผู้คนได้เป็นอย่างดี
โดยผู้ที่มีความฉลาดทางด้านสังคม (SQ) นั้น จะมีความโดดเด่นในเรื่องของการที่ชอบอยู่ร่วมกับผู้คนมากมายได้เป็นอย่างดี ซึ่งผู้ที่มีความฉลาดทางด้านเข้าสังคมสูงนั้นมักจะไม่ชอบอยู่ตัวคนเดียว แต่มักจะชอบทำการพบปะสังสรรค์กับคนหมู่มาก อีกทั้งยังมีทักษะทางด้านการศึกษาในระดับที่ดีเยี่ยม รู้ว่าสิ่งใดควรทำและไม่ควรทำขณะที่อยู่กับผู้อื่น ตลอดจนเป็นผู้ที่ความจิตใจร่าเริงแจ่มใสและมักเป็นผู้ที่ทำให้คนรอบข้างมีรอยยิ้มและมีความสุขได้เสมอ
5. Moral Quotient
MQ คือ ความฉลาดทางด้านศีลธรรมและจริยธรรม เป็นความสามารถของผู้ที่สามารถใช้หลักธรรม ศีลธรรม และจริยธรรมมาใช้ในการดำเนินชีวิตได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม โดยยึดถือจากหลักของความเชื่อหรือการนำคำสั่งสอนจากศาสนาที่นับถือมาปฏิบัติอย่างเคร่งครัด และสามารถนำสิ่งเหล่านี้มาปฏิบัติต่อผู้อื่นและคนรอบข้างได้เป็นอย่างดี ซึ่งข้อดีของผู้ที่มีความฉลาดทางด้านศีลธรรมและจริยธรรม (MQ) นั้นก็คือสามารถมีความเห็นอกเห็นใจผู้อื่นได้อย่างมาก ซึ่งก็หมายถึงเป็นที่ปรับทุกข์และเป็นผู้ที่ผู้อื่นไว้ใจที่จะขอคำปรึกษาและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นได้อย่างสบายใจนั่นเอง
ซึ่งเราจะสังเกตเห็นได้ว่าผู้ที่มีความเป็นเลิศทางด้าน IQ หรือ EQ นั้น มักจะเป็นที่ยอมรับจากคนในสังคมเป็นอย่างมาก แต่หากลองมองในความเป็นจริง หากเป็นผู้ที่มีความฉลาดทางด้าน IQ และ EQ แต่ขาดความฉลาดทางด้าน MQ ไปก็ใช่ว่าคนผู้นั้นจะได้รับการยอมรับ เพราะหากไม่มีศีลธรรมและจริยธรรมเกิดขึ้นในจิตใจนั้นก็เป็นไปได้ว่าการกระทำของเขาผู้นั้นอาจมีความคลุมเครือและไม่ได้เป็นผู้ที่มีกรรมดีเสมอไป
6. Creativity Quotient
CQ คือ ความฉลาดทางด้านความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ เป็นความสามารถของผู้ที่สามารถคิดเป็นและทำเป็น โดยจะเริ่มด้วยการเกิดความสนใจในสิ่งใดสิ่งหนึ่งและมีการตั้งคำถามหรือเกิดความสงสัยขึ้นมาในสิ่ง ๆ นั้นว่าสามารถทำออกมาได้จริงหรือไม่ หรือสามารถปรับเปลี่ยนให้แตกต่างจากเดิมไปได้หรือไม่ อย่างไร จากนั้นจึงเริ่มทำการค้นหาความจริงด้วยการทดลองทำและสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ออกมาอย่างสร้างสรรค์ ซึ่งความฉลาดทางด้านความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ (CQ) นั้น เป็นความสามารถอย่างหนึ่งที่จะอยู่ในตัวตนของเหล่านักธุรกิจทั้งหลาย
โดยที่เป็นเช่นนี้นั้นก็เป็นเพราะว่าผู้ที่ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์นั้น จะเป็นผู้ที่มีความคิด หรือจินตนาการในแบบที่ผู้อื่นอาจมองต่างออกไป แต่เขานั้นกลับมองว่ามันสามารถเกิดขึ้นจริงได้ และสามารถที่จะประดิษฐ์สิ่งนั้นขึ้นมาได้จริง โดยที่ลบคำสบประมาทของผู้คนรอบข้างจนได้รับความสำเร็จนั่นเอง อีกทั้งยังสามารถปรับเปลี่ยนสิ่งที่มีอยู่แต่เดิมให้มีการเปลี่ยนแปลงไปในการที่ดีได้อีกด้วย
7. Play Quotient
PQ คือ ความคิดฉลาดทางด้านการเล่น เป็นความสามารถที่มีมาตั้งแต่เด็กของมนุษย์ ซึ่งจะเกิดขึ้นจากประการสำคัญเลยคือครอบครัวโดยเฉพาะผู้เป็นพ่อเป็นแม่ ที่จะต้องหาของเล่นหรือสิ่งที่สามารถฝึกสมองให้แก่เด็ก ๆ ได้ โดยม่คำกล่าวหนึ่งที่ว่า “พ่อแม่เป็นของเล่นที่ดีที่สุดสำหรับลูก” ซึ่งหากมองในภาพรวมและพูดถึงหลักความเป็นจริงแล้วก็ถือว่าคำกล่าวนี้เป็นเรื่องจริง เพราะการที่เด็กจะมีความฉลาดทางด้านอื่น ๆ ร่วมด้วยนั้น พ่อแม่เป็นตัวการสำคัญที่จะทำให้เกิดขึ้นได้ ขึ้นอยู่กับว่าสิ่งที่ป้อนให้กับลูกนั้นเกี่ยวข้องกับอะไรและมีประโยชน์อย่างไรบ้าง
ซึ่งผู้ที่มีความฉลาดทางด้านการละเล่นนั้น (PQ) นั้น หากเขาได้หยิบจับสิ่งใดที่จะเล่นแล้วจะไม่ได้เล่นอยู่แค่ในเซฟโซนของสิ่งนั้น เช่น เด็กที่เล่นรถของเล่น หากเป็นผู้ที่มีความฉลาดทางด้าน PQ สูง เขานั้นจะสามารถต่อยอดการเล่นของตัวเองให้ดียิ่งขึ้นได้ โดยไม่ได้จำกัดว่ารถของเล่นนั้นจะต้องเล่นแบบไถลอยู่บนพื้น แต่เขาสามารถที่จะมองต่างออกไปและค้นพบวิธีการเล่นใหม่ ๆ ที่มีความสร้างสรรค์ในแบบที่คนอื่นคาดไม่ถึงนั่นเอง
8. Health Quotient
HQ คือ ความฉลาดทางด้านการดูแลสุขภาพ (เชาว์สุขภาพ) เป็นความสามารถของผู้ที่มีความสามารถในการเรียนรู้เรื่องของวิธีการดูแลสุขภาพได้เป็นอย่างดี โดยที่เขาผู้นั้นจะมีการเอาใจใส่ในเรื่องของสุขภาพตนเองอย่างดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการกิน , การพักผ่อน , การออกกำลังกาย รวมถึงการปฏิบัติตนให้ไกลห่างจากโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ ซึ่งนอกจากนี้ผู้ที่มีความฉลาดทางด้านการดูแลสุขภาพ (HQ) ที่พวกเขานั้นจะมุ่งเน้นในเรื่องของการทำตนให้เป็นผู้ทีมีสุขภาพแข็งแรงอยู่เสมอแล้ว การที่ทำให้จิตใจสดใสและแข็งแรงอย่างสม่ำเสมอนั้นก็เป็นเรื่องที่พวกเขามักจะปฏิบัติเช่นเดียวกัน
โดยผู้ที่มีความฉลาดทางด้าน HQ สูงนั้นเราจะสามารถสังเกตได้จากรูปร่างและการดำเนินชีวิตในแต่ละวันของเขาที่มักจะเข้มงวดในเรื่องของการทานอาหารที่มีประโยชน์ครบทั้ง 5 หมู่ และมักจะห่วงในเรื่องของรูปร่างอยู่สม่ำเสมอ และที่สำคัญจะมีการออกกำลังกายอย่างเป็นประจำ ซึ่งข้อดีของพวกเขาเลยก็คือจะหงุดหงิดและคิดลบยากมาก ๆ นั่นเอง
9. Optimist Quotient
OQ คือ ความฉลาดทางด้านการมองโลกแง่ดี เป็นความสามารถของผู้ที่มีความคิดบวกอยู่เสมอ กล่าวคือเป็นการนำเอา Positive Thinking หรือ กระบวนการคิดในแง่บวกมาปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้อยู่ตลอดเวลา โดยผู้ที่มี OQ สูงนั้นมักจะห่างไกลจากความเครียดและมองสิ่งที่เป็นด้านลบให้เป็นด้านบวกเสมอ ซึ่งนั่นก็จะหมายถึงหากเกิดเหตุการณ์หรือมีเรื่องราวที่เลวร้ายและยากต่อการที่จะรับไว้ หากเป็นผู้อื่นที่มี OQ นั้น ก็อาจจะเกิดความอ่อนไหวและไม่สามารถทำใจยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้นได้
แต่กลับกันผู้ที่มีความฉลาดทางด้านการมองโลกในแง่ดี (OQ) นั้น เขาจะทำใจยอมรับในเรื่องราวที่เกิดขึ้นได้ไม่ว่าสิ่งนั้นจะสร้างความเจ็บช้ำให้มากเพียงใด แต่พวกเขาก็จะสามารถผ่านพ้นมันไปได้ด้วยการคิดในแง่ดีและมองว่าไม่นานสิ่งเหล่านั้นมันจะสามารถผ่านพ้นไปและจะทำให้เกิดความสุขที่แท้จริงขึ้นในชีวิตได้
สรุป
ความฉลาดที่เรานั้นเคยคิดว่าเป็นเพียงเรื่องของการใช้สติปัญญาเท่านั้น เป็นเรื่องที่ผิดค่ะ ซึ่งเราสามารถที่จะตัดสินได้ว่าคนอื่นโง่ทั้ง ๆ ที่เรานั้นอาจเป็นคนหนึ่งโง่ก็ได้ เพราะทุกคนมีความฉลาดในตัวเอง เพียงแต่ว่าจะต้องรู้ก่อนว่าความฉลาดของคุณนั้นอยู่ในด้านใด ซึ่งความสามารถที่คุณมีนั้นอาจเป็นสิ่งที่คนอื่นไม่มี ดังนั้นอย่าตัดสินใครว่าโง่ หากคุณเองยังไม่รู้ว่าตัวของเขาและตัวของคุณเองมีความฉลาดในเรื่องใด และสิ่งสำคัญที่จะทำให้ความฉลาดนั้นเกิดการพัฒนาอย่างดีขึ้นเลยก็คือการทำในสิ่งที่ถนัดให้ดีมากยิ่งขึ้น ฝึกฝนอย่างเป็นประจำ ก็จะทำให้ความฉลาดของคุณในด้านใดด้านหนึ่งมีความโดดเด่นและประสบความสำเร็จได้อย่างแน่นอน